วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การเลี้ยงไก่ชน

การที่เราจะเลี้ยงไก่ออกชนนั้นก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าไก่ตัวไหนที่มีความฉลาดมีความสามารถในเชิงชนมาก น้อยแค่ไหนชั้นเชิงดีไหม ตีเจ็บไหมตีถูกไก่ดีไหม จิตใจดีไหม ส่วนประกอบต่างๆเหล่านี้ต้องพิจารณาให้ดี การที่จะคัดไก่เพื่อเอาไว้เลี้ยงชน เราต้องเลือกไก่ที่มีอายุหน่อย และต้องรู้ฤดูนั้นเป็นฤดูไก่หนุ่มหรือไก่แซม ไก่ถ่าย ถ้ารู้ก็จะได้เตรียมไก่ไว้ให้ถูกต้องตามฤดูกาล การที่เราจะเล่นไก่หนุ่มเราควรจะหาไก่ที่มีอายุสักหน่อยคือ ให้มีอายุชน 12 เดือน เสียก่อนค่อยนำมาเลี้ยงออกชน การที่เราต้องรอให้ครบ 1 ปีนั้น เพื่อต้องการให้ไก่มีความแข็งแกร่งในด้านกระดูก ในด้านกล้ามเนื้อ และด้านจิตใจ ถ้าเรานำไก่อายุน้อยเกินไป เช่นอายุ 10-11 เดือนนำมาซ้อมหรือฝึกบ่อยๆเกินไป ส่วนมากจะชนได้ไม่นาน เพราะบางทีหรือบางตัวพอวางมากๆเข้าจะทำให้ไก่เกิดการท้อใจได้พาลไม่สู้ไก่เอาเฉยๆเลยก็มี แต่ถ้าเราเอาไก่ที่มีอายุมากหน่อย ตั้งแต่ 12 เดือนไปแล้วนำไปวางฝึกซ้อมส่วนมากจะดีกว่าไก่ที่มีอายุน้อยๆ เพราะไก่ที่เป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วจะมีอาการหึงหวงตัวเมียเป็นธรรมชาติของสัตว์ และก็เกิดการแย่งชิงความเป็นใหญ่ในฝูง หรือในบ้านนั้นๆ เพราะฉะนั้นไก่หนุ่มที่มีอายุมากๆจึงไม่ค่อยท้อใจในเวลาซ้อมการซ้อมก็ควรหาคู่ซ้อมที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เลี้ยงไก่เราต้องใจเย็นๆอย่าใจร้อนต้องพิจารณาให้ดี การเลี้ยงไก่ออกชนนั้นไก่หนุ่มจะไม่ค่อยยากเหมือนไก่แซม ไก่ถ่าย เพราะไก่หนุ่มถ้าเลี้ยงมากเกินไปจะทำให้ไก่ไม่ค่อยตีไก่ ถ้าเลี้ยงน้อยเกินไปก็จะทำให้ไก่ไม่ค่อยมีกำลัง เราต้อง เลี้ยงให้พอดีๆการเลี้ยงไก่ออกชนนั้นเราต้องซ้อมให้ได้หน้าคือเราต้องซ้อมจนกว่าหน้าของไก่จะไม่ฟูบวมพอแผลที่หน้าหายดี แล้วก็ถ่ายยาลุ ถ่ายลุภายในที่ถูกตีเมื่อเวลาซ้อม หลังจากถ่ายยาสัก 3 วันก็เริ่มลงมือเลี้ยงได้เต็มที่ การเลี้ยงไก่แซมไก่ถ่ายต่างกับไก่หนุ่มมาก คือ เราต้องวางให้มากเข้าไว้อย่างน้อยต้อง 10-12 ยกขึ้นไป วางให้จนเข้าที่เหมือนเดิมให้ได้อย่าไปสงสารเพราะไก่แซมไก่ถ่ายนั้นหนังจะหนากระดูกก็จะแข็งมากไม่ต้องกลัวจะออกไก่ แต่ถ้าวางออกไก่แสดงว่าใจไม่สู้หรือใจไม่ดี ไม่พร้อมที่จะชน บางตัวตอนอายุหนุ่มๆ ชนดี ชนชนะหลายเที่ยว ชนจนขนเริ่มหลุด เริ่มแซม พอหลังจากแซมสุดหมดแล้ว ไม่สู้ไก่ก็มี บางตัวตอนหนุ่มๆไม่สู้ไก่ แต่พอแซมสุดหมดแล้วสู้ไม่เลือกหน้าก็มี
ยาบำรุง
การเลี้ยงไก่ออกชนนั้น จำเป็นต้องให้กินยาบำรุงกำลังตลอดระยะเวลาการเลี้ยงพร้อมจะออกชนในสนาม
ยาบำรุงของไก่ที่ขาดไม่ได้เลยนั้น ควรเน้นยาสมุนไพรโบราณให้มากที่สุดตัวยามีดังนี้
บอระเพ็ดผง
หัวแห้วหมูผง
กระเทียมครึ่งกิโล บดให้ละเอียดตากแห้งแล้วบดให้เป็นผง
กระชาย 2 กำ ตากแดดให้แห้งบดให้เป็นผง
พริกไทยเม็ด บดให้เป็นผง
ยาดำ บดให้เป็นผง
นกกระจอก 7 ตัว ย่างไฟให้สุกตากแดดให้แห้ง แล้วบดให้เป็นผง
ปลาช่อนครึ่งกิโล ย่างไฟให้สุกตากแดดให้แห้ง แล้วบดให้เป็นผง
ดีปรี 3 เม็ด บดให้เป็นผง
เอาทั้ง 9 อย่างนี้มาผสมกันกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอนให้กิน กินวันละ 1 เม็ดก่อนนอนทุกวันในระหว่างเลี้ยงอยู่นั้น ยังมียาอีกหลายอย่าง เช่น หญ้าแพรกบดให้ป่น ตากลมพอหมาดๆนำไปผสมนมข้นหวานใส่ตู้เย็นไว้ให้กินทุกวัน ก่อนนอนจะทำให้ไก่มีกำลังบินที่ดีมากและก็ในคราวเดียวกันในระหว่างกำลังเลี้ยงอยู่ควรให้กินยาวิตามินไปด้วย คือ แบรน เนอร์โปรตีน เพราะยาตัวนี้จะมีวิตามินที่ร่างกายต้องการไม่ว่าคนหรือสัตว์จะขาดเสียไม่ได้เลย คือ วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี วิตามินดี วิตามินทั้ง 4 ตัวนี้ถ้าขาดตัวใดตัวหนึ่งจะทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์ แข็งแรง เหมือนธรรมชาติ ระหว่างกำลังเลี้ยงอยู่ควรให้กินประมาณ 5 เม็ด ให้กินวันเว้นวัน หรือให้กินวันเว้นสองวัน และวันออกให้กินอีก 1 เม็ด ข้อ สำคัญอย่าให้กินมากเกินไป เพราะจะทำให้ไก่บินมากจนตีไม่ถูก เพราะไก่คึกเกินไปนั้นเอง เพราะฉะนั้นการเลี้ยงไก่
ออกชนทุกครั้ง จึงจำเป็นต้องให้กินทุกครั้งเพื่อไม่ให้ไก่ขาดวิตามินตัวใดตัวหนึ่งและก็จะทำให้ไก่ได้มีกำลังเพิ่มขึ้นกว่าปกติ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี ก่อนกินยาบำรุงทุกขนาดควรให้กินข้าวก่อน แล้วค่อยให้กินยาตอนเย็นก่อนนอน
การลงกระเบื้อง
กระเบื้องประคบไก่ ประคบเพื่อเสริมธาตุในการรักษาอาการบาดเจ็บของไก่ชน สมัยโบราณคนโบราณไม่ว่า จะทำกิจกรรม หรือวิธีกรรมใดๆ จะขาดธาตุหลักทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟไม่ได้ ดูจากคาถาโบราณ ยังมีคาถาปลุกธาตุ 4 คือ นะ มะ พะ ทะ การเลี้ยงไก่ชนซึ่งมีควบคู่กับคนไทยโบราณมานาน ก็ย่อมต้องอิงธาตุ 4 ด้วยเช่นกัน สิ่งมีชีวิตทุกชนิด ประกอบด้วยดินน้ำลมไฟ เมื่อขาดธาตุใดธาตุหนึ่ง หรือเกิดความไม่สมดุลย์ของธาตุใดธาตุหนึ่ง ร่างกายของสิ่งมีชีวิตนั้นก็จะเกิดเจ็บป่วยขึ้นดังนั้นจึงต้องมีการเสริมธาตุที่ขาดไปให้สมบูรณ์ดัง เดิม ก็จะหายจากการเจ็บป่วยไดการกราดน้ำไก่ชน คือการเสริมธาตุน้ำ ธาตุลมมาจากอากาศรอบๆตัว ธาตุไฟที่ติดไวและมารวมเป็นความร้อนอยู่บนกระเบื้องซึ่งเป็นธาตุดิน เมื่อพูดว่าเลี้ยงทำตัวกราดน้ำ ติดกระเบื้องก็จะ้ มองเห็นภาพการรวมธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาสู่ตัวไก่โดยใช้ผ้าชุบน้ำมาเช็ดบนแผ่นกระเบื้องที่มีความร้อนแล้วนำมาประคบตัวไก่ ในปัจจุบันนี้มีการเปลี่ยนแปลงจาก เตาถ่านและกระเบื้องดินเผาที่ต้องรอกว่าจะร้อนมาเป็นเตารีดที่เพียงเสียบปลั๊กปุ๊บก็ร้อนปั๊บ ใช้งานได้ทันที เหมาะแก่การเลี้ยงไก่ชนในสมัยนี้ ซึ่งดัดแปลงจากเตารีดธรรมดาที่ใช้ตามบ้าน โดยแกะด้านที่จับออก หงายเตารีดและขัน น๊อตยึดกับแผ่นไม้ เพื่อความมั่นคงและสะดวกในการใช้งาน
การลงขมิ้น
ในการเลี้ยงไก่ชนขมิ้นถือว่ามีคุณค่าและจำเป็นอย่างยิ่งมือน้ำจะใช้ขมิ้นผสมกับปูนกินหมากให้ข้น
แล้วนำมาทาตามเนื้อตัวไก่เพื่อรักษาบาดแผลในการต่อสู้ และเพื่อทำให้ผิวพรรณของไก่ดีและยังช่วยไล่
ไรและแมลงต่างๆที่จะมาสร้างความลำคาญให้แก่ไก่ การลงขมิ้นที่ถูกต้องก็มีเทคนิคและวิธีการที่ค่อน
ข้างจะซับซ้อนอยู่ไม่น้อยหากผู้เลี้ยงทำไม่ถูกต้อง แทนที่การลงขมิ้นจะได้ประโยชน์
อาจกลับกลายเป็นโทษต่อไก่ไปโดยไม่รู้ตัว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น